ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัดทริปท่องเที่ยววันเด็ก เปิดเส้นทางรถไฟ ตามรอย “ไม้หมอน มาร์ท”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดย นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ททท. จับมือพันธมิตรท่องเที่ยว จัดทริป นั่งรถไฟเที่ยววันเด็กแห่งชาติ 2567
โดยมี นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย พร้อมด้วย นายวิษณุ อรุณบำรุงวงษ์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ททท., นางสาวสุรีย์พร พงษ์พานิช ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง ททท., นางอารีย์ ฤกษ์สภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานลพบุรี ททท. นำผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
จัดทริปเที่ยววันเด็กแห่งชาติ 2567 ทริปนี้ ได้รับความร่วมมือ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) โดยมี นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมอย่างคึกคักที่หัวลำโพง เดินทางด้วยขบวนรถที่ 921 ชานชลาที่3 ตั้งเวลา 06.00น. ออกจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) จุดหมายปลายทาง สถานนีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (รถไฟลอยน้ำ) จังหวัดลพบุรี
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กล่าวว่า ททท. ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรอง
ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญในการบูรณาการงานร่วมกับพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ และก้าวหน้าไปสู่การท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างยั่งยืน จึงกำหนดกิจกรรม “ไม้หมอน มาร์ท” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพฯ
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอสินค้า กิจกรรม บริการทางการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางดังกล่าวโดยรถไฟ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วไป รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวดังกล่าวให้แก่พันธมิตรทางการท่องเที่ยว โดยเชิญหน่วยงานพันธมิตรทางการท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวดังกล่าว
ได้แก่ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) TEATA สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว (TFOPTA) บริษัท คุณชายทัวร์ดอทคอม และสื่อมวลชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 72 คน
ททท. มีความเชื่อมั่นว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายการท่องเที่ยว “ไม้หมอน มาร์ท” ในวันที่ 13 มกราคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างรับรู้ว่าจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นเมืองรองในภาคกลาง ที่ไม่เป็นรองใคร เพราะมีความน่าสนใจ และสามารถสร้างความสุขให้ทุกท่านได้ไม่น้อยไปกว่าการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และยังประโยชน์ต่อผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวในการนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นผลักดัน เข้าสู่กระบวนการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวและเสนอขายในรูปแบบแพ็กเกจทัวร์ต่อไป
ที่สำคัญ การเดินทางครั้งนี้ ยังช่วยการกระจายรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สถานีโคกสลุง จังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ยังกระจายรายได้ไปถึงภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ ธุรกิจด้านที่พัก ร้านอาหารแหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจรายย่อย ตลอดจนถึงชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการมอบความสุขให้แก่ทุกท่านเพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ ปี พ.ศ. 2567
นางอารีย์ ฤกษ์สภาพ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า บนขบวนรถไฟว่า สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ของสำนักงานลพบุรี ซึ่งดูแลรับผิดชอบ จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยนาทด้วย ซึ่งงานเทศกาลประเพณี
และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 นี้ (product briefing)ทั้งนี้ผู้ร่วมเดินทางได้สัมผัสบรรยากาศการนั่งรถไฟลอยน้ำชมบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
ซึ่งโดยปกติจัดขึ้นปีละครั้ง เพื่อจะได้พบกับการแนะนำสินค้าและบริการการท่องเที่ยวเมืองรองของภาคกลางอันเป็นการดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองรองของรัฐบาลเพื่อลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก และลดความเหลื่อมล้ำจากรายได้ทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก
ซึ่งจะได้เรียนรู้ประวัติ ความเป็นมาของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก ตลอดจนมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่เขื่อนซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรม และการดำรงชีวิต ตลอดจนความรุ่งเรืองของชุมชนในบริเวณนี้
ขณะที่ในช่วงอาหารกลาง คณะจะได้รับลิ้มลองอาหารที่ ร้านครัวกุ้งหลวง หลังจากนั้น เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนไร่ทรัพย์ประยูร คาเฟ่ สวนเฟิร์นบรรยากาศร่มรื่นที่สามารถทำกิจกรรมตให้อาหารสัตว์ต่างๆ ได้ อาทิ นก กระต่าย ปลา ม้า เป็นต้น
และเดินทางไปยังบ้านกล้วย & ไข่ ชมความงามของ ทุ่งทานตะวัน ทุ่งดอกดาวกระจาย และทุ่งหญ้าหลากสีชมและให้อาหารสัตว์ รวมทั้งเลือกซื้อสินค้า อาทิ กล้วยไข่ ไข่เค็มดินสอพอง ผลผลิตทางการเกษตร ทั้งสดใหม่และแปรรูป ณ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ